ในโลกปัจจุบันที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว การส่งเสริมให้เด็กรู้จักพึ่งพาตนเองเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญต่อการพัฒนาของเด็ก เพราะการพึ่งพาตนเองไม่ได้หมายถึงเพียงการมอบอิสระให้เด็กเท่านั้น แต่ยังเป็นการให้พวกเขาได้รู้จักควบคุมการเดินทางชีวิตของตนเอง ช่วยให้ตัดสินใจได้อย่างชาญฉลาดมากขึ้น ไปจนถึงความพร้อมในการรับมือกับความท้าทายอย่างมั่นใจ ไม่ว่าจะเป็น พ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือครูผู้สอนควรแนะนำให้เด็กรู้จักพึ่งพาตนเอง ซึ่งจะเป็นช่วยเตรียมความพร้อมให้เขาได้พร้อมท้าทายสิ่งต่างๆ ที่ต้องเผชิญเมื่อโตขึ้น
การพึ่งพาตนเองหมายความว่าอย่างไร?
การพึ่งพาตนเองหมายถึงความสามารถในการดูแลตนเองได้ทั้งในด้านอารมณ์และด้านการกระทำ ซึ่งเกี่ยวข้องกับความรู้สึกอิสระ และความมั่นใจในการค้นหาความท้าทายในชีวิต เด็กที่พึ่งพาตนเองได้มักมีทักษะอละการแก้ปัญหา รวมถึง growth mindset และการปรับตัวให้เข้ากับการเปลี่ยนแปลง คุณสมบัติเหล่านี้จะนำพาพวกเขาไปสู่ความสำเร็จที่นำมาซึ่งความเป็นอยู่ที่ดีในชีวิต
เด็กที่พึ่งพาตนเองได้และเด็กที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นต่างกันอย่างไร?
เด็กที่พึ่งพาตนเองได้จะสามารถตัดสินใจ จัดการงาน และรับมือกับความท้าทายด้วยตัวเอง โดยอาจจะไม่จำเป็นต้องขอคำแนะนำจากผู่ใหญ่ เด็กจะมีความรับผิดชอบอย่างมาก ยอมรับผลที่เกิดจากการกระทำของตนเอง และแสดงให้เห็นถึงความเต็มใจที่จะเรียนรู้จากความผิดพลาดของตนเอง และแม้ว่าเด็กที่พึ่งพาตนเองได้จะสามารถช่วยตนเองได้ แต่พวกเขาจะไม่กลัวที่จะขอความช่วยเหลือและไม่แยกตัวออกจากผู้อื่น
ในทางกลับกัน เด็กที่ต้องพึ่งพาผู้อื่นต้องการคำแนะนำอย่างมากเพื่อการตัดสินใจและการแก้ปัญหาต่างๆ โดยอาจประสบปัญหาเมื่อต้องเผชิญกับสถานการณ์ที่ไม่คุ้นเคยและขาดความมั่นใจในการลองผิดลองถูกและเรียนรู้อย่างอิสระ
วิธีสอนให้เด็กให้รู้จักพึ่งพาตนเอง
1. ส่งเสริมให้เด็กกล้าตัดสินใจด้วยตนเอง
ในฐานะพ่อแม่หรือผู้ปกครอง ควรเปิดโอกาสให้เด็กได้ตัดสินใจเองตั้งแต่อายุยังน้อย โดยอาจเริ่มจากเรื่องง่ายๆ เช่น การตัดสินใจว่าจะสวมใส่อะไร ไปจนถึงการเลือกกิจกรรมนอกหลักสูตรที่สนใจ ความรู้สึกที่เป็นอิสระจากการได้เลือกด้วยตัวเองจะช่วยให้เด็กมีความมั่นใจในการตัดสินใจมากขึ้น เมื่อเด็กโตขึ้น ให้เด็กมีส่วนร่วมในการตัดสินใจในเรื่องที่เกี่ยวกับการศึกษาและเป้าหมายในอนาคต
2. ส่งเสริมทักษะการแก้ปัญหา
แทนที่จะเสนอทางออกให้เด็กโดยทันที ควรกระตุ้นให้เด็กฝึกคิดและหาแนวทางต่างๆ เพื่อรับมือกับความท้าทายด้วยตัวเอง สอนให้เด็กเข้าใจว่าปัญหาหนึ่งมีทางออกมากมายและการคิดนอกกรอบเป็นสิ่งสำคัญ อีกวิธีหนึ่งในการพัฒนาทักษะการแก้ปัญหาอย่างสนุกสนานและมีส่วนร่วมคือการเล่นเกม ปริศนาและเกมกระดาน เช่น หมากรุกจะช่วยสอนให้เด็กพยายามเข้าใจความคิดของฝ่ายตรงข้ามและวางแผนการเล่นล่วงหน้า ท้ายที่สุด สิ่งนี้จะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ (Critical thinking) และการวิเคราะห์
3. ส่งเสริมความรับผิดชอบ
การเป็นพ่อแม่ไม่ใช่เรื่องง่ายโดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อต้องทำงานบ้านที่หลากหลายและดูแลความปลอดภัยของลูก รวมถึงป้องกันไม่ให้ลูกนำของเล่นเข้าปาก วิธีการบรรเทาปัญหาเหล่านี้และปลูกฝังความรับผิดชอบของเด็กคือการมอบหมายงานบ้านที่เด็กสามารถทำได้ด้วยตัวเอง ซึ่งอาจเป็นงานง่ายๆ เช่น การเก็บของเล่นให้เข้าที่เมื่อเล่นเสร็จแล้ว การมอบหมายงานบ้านเหล่านี้จะช่วยให้เด็กมีความรับผิดชอบ และเห็นความสำคัญของการมีส่วนร่วมกับครอบครัวและชุมชน
4. สอนให้เด็กยอมรับความล้มเหลวและกระตุ้นให้เด็กเรียนรู้จากความผิดพลาด
เป็นเรื่องปกติที่ผู้ปกครองมักจะดูแลเด็กเป็นอย่างดีโดยไม่ให้เกิดข้อผิดพลาด แต่การดูแลที่มากเกินไปอาจส่งผลเสียมากกว่าผลดี ควรสอนให้เด็กยอมรับความล้มเหลวและมองว่าความผิดพลาดเป็นกระบวนการเรียนรู้ตามธรรมชาติเท่านั้น ช่วยให้เด็กเข้าใจว่าความผิดพลาดเป็นโอกาสที่จะเติบโต แทนที่จะกลัวมัน
กิจกรรมที่ช่วยให้เด็กพึ่งพาตนเอง
- การทำอาหาร – ให้เด็กมีส่วนร่วมในการวางแผนและเตรียมอาหาร ซึ่งจะช่วยให้เด็กพัฒนาทักษะเชิงปฏิบัติ พร้อมทั้งปลูกฝังความสามารถในการพึ่งพาตนเอง
- กิจกรรมกลางแจ้ง– ส่งเสริมกิจกรรมกลางแจ้ง เช่น การเดินป่า การตั้งแคมป์ หรือการทำสวน กิจกรรมเหล่านี้สอนให้เด็กได้สำรวจสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยและพัฒนาความสามารถในการปรับตัว
- การสร้างสรรค์ – ให้เด็กมีส่วนร่วมกับงานศิลปะ การทดลองวิทยาศาสตร์ หรือทำงาน DIY กิจกรรมเหล่านี้กระตุ้นให้เด็กคิดค้นวิธีแก้ปัญหาอย่างอิสระ
- จัดตารางสำหรับกิจวัตรประจำวัน – จัดทำรายการที่เด็กต้องทำในแต่ละวัน ซึ่งเป็นการสอนให้เด็กทำภารกิจให้สำเร็จและสร้างความอดทน
D-PREP สอนเด็กให้พึ่งพาตนเองได้อย่างไร
ที่โรงเรียนนานาชาติบางนา D-PREP เรามุ่งมั่นที่จะส่งเสริมการพึ่งพาตนเองผ่านแนวทางและกลยุทธ์การสอนที่หลากหลาย เราอุทิศตนเพื่อการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลาง การปรับการสอนให้เหมาะสมกับความต้องการ ความสนใจ และรูปแบบการเรียนรู้ของนักเรียนแต่ละคน ช่วยให้เด็กมีอิสระในการเรียนรู้ ซึ่งจะส่งเสริมทักษะการคิดเชิงวิพากษ์ การแก้ปัญหา และการตัดสินใจ นักเรียนของโรงเรียนนานาชาติ D-PREP มีส่วนร่วมอย่างมากในการเรียนการสอน ซึ่งเป็นการปลูกฝังความมั่นใจและการพึ่งพาตนเอง
นอกเหนือจากการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางแล้วโรงเรียนนานาชาติ D-PREP ยังเน้นการพัฒนาทักษะชีวิตอีกด้วย ทักษะชีวิตประกอบด้วย 4 ส่วนหลัก ได้แก่ ความเข้าใจตนเอง ความเข้าใจสังคม การดำรงชีวิต และการเป็นพลเมืองที่มีส่วนร่วม ความสำเร็จทางวิชาการเป็นเพียงปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เด็กมีความรอบรู้ การปลูกฝังทักษะชีวิตทำให้นักเรียนสามารถเผชิญกับความท้าทายในวัยผู้ใหญ่และสามารถจัดการปัญหาต่างๆ ในชีวิตได้อย่างอิสระ
กิจกรรมนอกหลักสูตรและทัศนศึกษานอกสถานที่ยังเป็นส่วนหนึ่งในการส่งเสริมการพึ่งพาตนเอง โรงเรียนนานาชาติ D-PREP มีโปรแกรมนอกหลักสูตรที่หลากหลาย ซึ่งช่วยให้นักเรียนสามารถค้นหาความสนใจของตนเองนอกเหนือจากการเรียนในห้องเรียน และช่วยสร้างความมั่นใจในตนเอง และความรู้สึกเป็นอิสระ
ทัศนศึกษานอกสถานที่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝังความรับผิดชอบ ทัศนศึกษานอกสถานที่เป็นกิจกรรมแบบค้างคืนนอกโรงเรียนโดยใช้เวลา 5 วัน ซึ่งนักเรียนจะได้ท้าทายตนเองในการทำงานร่วมกับผู้อื่น พัฒนาการสื่อสาร และปรับให้เข้ากับสภาพแวดล้อมในโลกแห่งความเป็นจริง การพานักเรียนไปอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่คุ้นเคยจะกระตุ้นให้เด็กพึ่งพาตัวเองและส่งเสริมการนับถือผู้อื่น
ในโลกที่ยังพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การเตรียมความพร้อมให้เด็กพึ่งพาตนเองจะเป็นประโยชน์ต่อเด็กอย่างที่สุด การสอนให้เด็กพัฒนาทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ การแก้ไขปัญหา และการปรับตัวเข้ากับสถานการณ์ใหม่ๆ เราสนับสนุนให้เด็กสามารถเติบโตในโลกที่เปลี่ยนแปลงอย่างไม่สิ้นสุด การส่งเสริมให้เด็กพึ่งพาตนเองช่วยให้เด็กเติบโตขึ้นเป็นบุคคลที่มีความสามารถ มีความมั่นใจและสามารถปรับตัว และพร้อมที่จะรับผิดชอบต่อสังคม
Address :
D-PREP International School
38, 38/1-3, 39, Moo 6,
Bangna Trad Rd., Km. 8,
Bang Kaeo, Bang Phli District,
Samut Prakan, Thailand 10540
Email: admissions@dprep.ac.th
เบอร์ติดต่อ: 095-879-4944
Website : www.dprep.ac.th
Facebook: D-PREP International School
Line: @d-prep
IG : @dprepschool