คำถามที่พบบ่อย
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับโรงเรียนนานาชาติ D-PREP
Join our Open House for Early years and Primary School
Discover why D-PREP is the school for your child! Learn more about us.
April 19 and May 10, 2023
Join our Open House for Middle and High School
Discover why D-PREP is the school for your child! Learn more about us.
April 21 and May 12, 2023
คำถามที่พบบ่อย
D-PREP เกี่ยวข้องกับโรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก อย่างไร?
คุณพัชรลักขณ์ ดิษยะศริน ตะเวทิกุล (คุณเลดี้) ประธานกรรมการโรงเรียน เป็นผู้อำนวยการโรงเรียนและกรรมการบริหารโรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก มีการจัดกิจกรรมร่วมกันของทั้ง 2 โรงเรียนระหว่างปีการศึกษา
D-PREP แตกต่างจากโรงเรียน ดิ อเมริกัน สคูล ออฟ แบงค็อก อย่างไร?
D-PREP ใช้หลักแนวทางการเรียนรู้แบบ D-PREP PBL (Passion + Problem + Practice + Project based learning: การเรียนรู้ผ่านโครงงาน การฝึกฝน การแก้ปัญหาและความมุ่งมั่น) เป็นเครื่องมือหลักในการเรียนการสอน D-PREP ผสมผสานทั้งหลักสูตรแบบสหรัฐอเมริกา (หลักสูตรรัฐนิวยอร์ก) เข้ากับหลักสูตรแบบแคนาดา (ออนทาริโอ) ในขณะที่ ASB ใช้หลักสูตรของสหรัฐอเมริกา (หลักสูตรตามมาตรฐานร่วม) อย่างเต็มรูปแบบ D-PREP ยังมุ่งมั่นจะเป็นโรงเรียนตามหลักสูตร International Baccalaureate (IB) ในขณะที่ ASB เป็นโรงเรียนที่ได้รับการรับรองมาตรฐาน WASC ซึ่งจัดการเรียนการสอนหลักสูตรเข้มข้น AP ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
D-PREP แตกต่างจากโรงเรียนนานาชาติอื่นอย่างไร?
ตามที่ได้กล่าวไปเบื้องต้น ที่ D-PREP เราใช้รูปแบบแนวทางการเรียนการสอนแบบ D-PREP PBL และผสมผสานหลักสูตรทักษะชีวิตของ D-PREP เข้ากับหลักสูตรปกติ สำหรับหลักสูตรสังคมศึกษา เราเน้นความสำคัญของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ไทย (ตามที่ตั้งของโรงเรียน) เอเชียและนานาชาติ
หลักสูตรของเราเน้น 3 ภาษา ร้อยละ 70 ของการเรียนทั้งหมดเป็นการพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษ ร้อยละ 20 พัฒนาทักษะภาษาไทย และร้อยละ 10 พัฒนาทักษะภาษาจีน
คณาจารย์มีสัญชาติอะไรบ้าง?
คณาจารย์ของเรามีสัญชาติสหรัฐอเมริกา แคนาดา อังกฤษ แอฟริกาใต้ ไทย จีน
นักเรียนมีสัญชาติอะไรบ้าง?
นักเรียนของเรามีสัญชาติไทย ไต้หวัน จีน เกาหลี อเมริกัน อังกฤษ เยอรมัน สวีเดน นอร์เวย์ และประเทศในยุโรปอีกหลายๆประเทศ
คุณสมบัติของคณาจารย์มีอะไรบ้าง?
ครูประจำชั้นของเราเป็นผู้ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาหลัก ซึ่งมีคุณสมบัติในการสอนตามที่รับรองโดยสถาบันการศึกษาสากล (WASC หรือ CIS) เช่น การสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาบัณฑิตหรือมหาบัณฑิตด้านครุศาสตร์ หรือมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู (นานาชาติ)
จำนวนนักเรียนต่อห้องในแต่ละระดับชั้นเป็นอย่างไร?
ชั้นเตรียมอนุบาล 1-2: นักเรียน 12-15 คน
ชั้นอนุบาล 1-2: นักเรียน 15-18 คน
ชั้นเกรด 1-5: นักเรียน 20-22 คน
หากที่บ้านไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษ จะเป็นปัญหาต่อบุตรหลานหรือไม่?
ไม่มีปัญหา ถึงแม้ที่บ้านจะไม่มีคนพูดภาษาอังกฤษ นักเรียนได้ใช้เวลาทั้งวันเรียนรู้เป็นภาษาอังกฤษทุกวันที่เปิดเรียน ในช่วงเดือนแรกจะเป็นขั้นตอนพัฒนาความเข้าใจคำศัพท์และวลีในภาษาอังกฤษ นักเรียนจะเริ่มสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษเมื่อนักเรียนรู้สึกพร้อม หากนักเรียนเข้าศึกษาในโรงเรียนของเราตั้งแต่ชั้นเตรียมอนุบาล 1 เมื่อนักเรียนขึ้นชั้นเตรียมอนุบาล 2 นักเรียนจะสามารถออกเสียงคำได้อย่างถูกต้อง และสามารถสื่อสารประโยคง่ายๆ ได้เมื่อขึ้นชั้นอนุบาล 1 เมื่ออยู่ชั้นอนุบาล 2 นักเรียนจะสามารถถ่ายทอดความคิดและถามคำถามเป็นประโยคที่ซับซ้อนขึ้น นักเรียนจะเรียนรู้ที่จะใช้ภาษาอังกฤษที่โรงเรียนและใช้ภาษาไทยที่บ้าน
ควรใช้ภาษาอังกฤษกับบุตรหลานหรือไม่ หากทักษะภาษาอังกฤษไม่ดีหรือสำเนียงไม่เป็นตามแบบแผน?
เราสนับสนุนให้ผู้ปกครองใช้ภาษาอังกฤษกับบุตรหลานเสมอไม่ว่าทักษะภาษาอังกฤษจะอยู่ระดับใดก็ตาม ผู้ปกครองหลายคนถูกปลูกฝังมาว่าไม่ควรใช้ภาษาอังกฤษกับบุตรหลานเพราะเกรงว่าบุตรหลานจะเลียนแบบสำเนียงหรือจดจำไวยากรณ์ที่ผิด นักเรียนมีการเรียนรู้ที่ไว นักเรียนรู้ว่าครูที่โรงเรียนเป็นเจ้าของภาษาที่ต้องเรียนรู้และเลียนแบบ นักเรียนจะเรียนรู้และกลับมาปรับแก้ไวยากรณ์หรือการออกเสียงของผู้ปกครองให้ถูกต้องในที่สุด การพยายามใช้ภาษาอังกฤษกับนักเรียนแสดงให้เห็นว่าผู้ปกครองเล็งเห็นความสำคัญของภาษาอังกฤษซึ่งจะทำให้นักเรียนอยากแสดงทักษะภาษาอังกฤษที่บ้าน
หากบุตรหลานเคยเข้าเรียนในโรงเรียนไทยมาก่อน (โรงเรียนไทย หลักสูตรสองภาษา หรือหลักสูตรภาษาอังกฤษ) จะสามารถตามเป้าประสงค์ทางวิชาการของแต่ละชั้นได้ทันหรือไม่ หากวางแผนจะย้ายมาเรียนที่ D-PREP?
หากบุตรหลานย้ายมาเข้าเรียนในระดับชั้นเตรียมอนุบาล – อนุบาล 2 ย่อมสามารถปรับตัวเข้ากับหลักสูตรของโรงเรียนนานาชาติได้อย่างราบรื่นเนื่องจากเด็กในช่วงวัยนี้สามารถปรับตัวเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ได้เร็ว อาจเพิ่มการเรียนพิเศษหลังเลิกเรียนในช่วงชั้นอนุบาล 2 หากพบว่านักเรียนพบปัญหา ไม่สามารถปฏิบัติตามเกณฑ์ทั่วไปได้ทันหลังจากย้ายโรงเรียนมาสักพักแล้ว
หากบุตรหลานย้ายมาจากโรงเรียนไทย ในระดับชั้นตั้งแต่เกรด 1 ขึ้นไป นักเรียนอาจต้องสอบวัดระดับภาษาอังกฤษสำหรับประเมินความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษเพื่อเปรียบเทียบกับเกณฑ์ความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษระดับประถมศึกษาของ D-PREP หากความรู้ภาษาอังกฤษของนักเรียนไม่เพียงพอ นักเรียนจะต้องสมัครเรียนหลักสูตรสอนภาษาอังกฤษเสริม (ELL) เพื่อเรียนรู้ภาษาอังกฤษกับผู้เชียวชาญด้านการสอนภาษาอังกฤษเสริมในชั้นเรียนพิเศษโดยเฉพาะ จนกว่าจะสามารถผ่านเกณฑ์ขั้นต่ำของการสอบประเมินผลความสามารถในการใช้ภาษาอังกฤษ นักเรียนจึงจะได้เข้าร่วมชั้นเรียนตามระดับชั้นตามปกติ
โรงเรียนจัดอาหารให้นักเรียนอย่างไรบ้าง?
โรงเรียนจัดอาหารหลากหลายทั้งไทยและนานาชาติ โรงเรียนส่งเสริมให้นักเรียนรับประทานให้เพียงพอต่อความต้องการและได้ลองรับประทานอาหารที่หลากหลายตามที่โรงเรียนจัดเตรียมให้ นักเรียนเตรียมอนุบาล – อนุบาล 1 โรงเรียนจะจัดเตรียมอาหารกลางวันและอาหารว่างให้ที่โต๊ะรับประทานอาหาร ส่วนนักเรียนระดับชั้นอนุบาล 2 ขึ้นไปจะต้องช่วยเหลือตนเองเพื่อฝึกการพึ่งพาตนเองและการควบคุมตนเองภายใต้การดูแลของผู้ใหญ่
หากบุตรหลานแพ้อาหารต้องทำอย่างไร?
ผู้ปกครองจะต้องแจ้งให้โรงเรียนทราบในวันยื่นใบสมัครหากนักเรียนแพ้อาหาร และโรงเรียนรับรองว่าจะปรับเปลี่ยนทุกอย่างตามความจำเป็นเพื่อตอบสนองความต้องการของนักเรียน
โรงเรียนมีการป้องกันการเจ็บป่วยหรือปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัยอย่างไร?
ทุกเช้า นักเรียนจะต้องรับการวัดอุณหภูมิและฆ่าเชื้อที่มือเมื่อมาถึงโรงเรียน หากนักเรียนมีอุณหภูมิร่างกายวัดได้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส โรงเรียนจะแจ้งผู้ปกครองมารับกลับบ้าน ระหว่างวัน หากพบนักเรียนที่มีอุณหภูมิร่างกายวัดได้เกิน 37.5 องศาเซลเซียส ท้องร่วงอย่างรุนแรง มีน้ำมูกไหลหรือไอผิดปกติ หรืออาเจียน ผู้ปกครองจะได้รับแจ้งให้มารับบุตรหลานกลับจากโรงเรียน