เลือกภาษา

5/5

Open

House

เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
15 พฤษภาคม 2567

Open House
เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
15 พฤษภาคม 2567
การเรียนแบบ Project Approach มีประโยชน์กับเด็กอย่างไร

การเรียนแบบ Project Approach มีประโยชน์กับเด็กอย่างไร

Benefit of project approach

การเรียนการสอนแบบ Project Approach มีประโยชน์อย่างไร พร้อมตัวอย่างโครงงาน

Project Approach หรือการเรียนการสอนแบบให้เด็กมีส่วนร่วมและกระตุ้นให้เด็กรู้จักเรียนรู้ด้วยตัวเองกำลังเป็นที่นิยมในโรงเรียนทั่วโลก เพราะนำไปปรับใช้ได้กับทุกวิชา ซึ่งโรงเรียนหลายแห่งและนักการศึกษาจำนวนมากพบว่า การให้เด็กได้มีส่วนร่วมเป็นวิธีการสอนที่มีประสิทธิภาพมากที่ช่วยให้เข้าใจสิ่งต่างๆ ได้ดีขึ้น และช่วยเตรียมความพร้อมเด็กก่อนเข้าสู่โลกแห่งความเป็นจริง 

ในบทความนี้ เราจะเจาะลึกถึงรายละเอียดของ Project Approach  และทำความเข้าใจถึงวิธีการเรียนการสอนดังกล่าวว่านำไปปรับใช้กับเด็กๆ ได้อย่างไรบ้าง

การเรียนการสอนแบบ Project Approach คืออะไร

Project Approach เป็นกระบวนการสืบค้นเชิงลึกเกี่ยวกับเรื่องใดเรื่องหนึ่งโดยมีนักเรียนเป็นผู้ลงมือปฏิบัติและมีครูผู้สอนคอยแนะนำ ซึ่งตั้งอยู่บนพื้นฐานที่ว่า นักเรียนย่อมเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อพวกเขารู้สึกสนใจและมีส่วนร่วมในหัวข้อที่พวกเขากำลังเรียนอยู่

นักเรียนในห้องจะได้ทำกิจกรรมร่วมกันโดยการเลือกหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ตั้งคำถาม หรือหาวิธีแก้ปัญหาที่อาจต้องใช้เวลานานเป็นสัปดาห์หรือเป็นเดือน การมีส่วนร่วมนี้จะช่วยให้เด็กๆ พัฒนาทักษะะการคิดแบบเป็นเหตุเป็นผล ทักษะการติดต่อสื่อสาร และทักษะทางสังคม

การเรียนการสอนแบบ Project Approach มีหลักความเชื่อและแนวทางที่สำคัญอยู่หลายประการ ได้แก่

  • เด็กๆ เป็นนักเรียนมีความอยากรู้อยากเห็นและต้องการสำรวจโลกรอบๆ ตัวพวกเขาอยู่แล้วตั้งแต่เกิด
  • การเรียนเป็นกระบวนการที่ต้องทำร่วมกับผู้อื่น และนักเรียนจะเรียนรู้ได้ดีที่สุดเมื่อทำงานร่วมกับเพื่อนๆ
  •  การเรียนควรเกี่ยวข้องกับความสนใจ ประสบการณ์ และตัวตนของนักเรียน
  • นักเรียนควรมีความกระตือรือร้นกับการเรียนมากกว่าการนั่งฟังสิ่งที่สอนในห้องเรียนเฉยๆ
  • นักเรียนควรได้รับการสนับสนุนให้ตั้งคำถามและค้นหาคำตอบด้วยตัวเอง ไม่ว่าจะจากทางไหน
  • การเรียนควรมีการผสมผสานข้ามสาขาวิชาและได้ใช้สื่อการเรียนรู้ที่หลากหลาย

ข้อดีของการเรียนการสอนแบบ Project Approach

การนำ Project Approach มาใช้ในห้องเรียนนั้น มีข้อดีหลายอย่างด้วยกัน ได้แก่

  1. ส่งเสริมการคิดแบบ Critical thinking : การทำงานร่วมกันในโครงการใดโครงการหนึ่ง จะทำให้นักเรียนรู้จักที่จะสื่อสารทางความคิดอย่างมีประสิทธิภาพ รู้จักรับฟังเพื่อนในกลุ่ม และทำงานร่วมกันเพื่อบรรลุเป้าหมายเดียวกัน
  2. เสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ : นักเรียนจะได้รับการส่งเสริมให้รู้จักคิดนอกกรอบและพัฒนาวิธีการคิดแก้ไขปัญหาที่ไม่เหมือนใครตามแนวทางของตนเอง
  3. เสริมสร้างทักษะการสื่อสาร : การทำงานร่วมกันจะทำให้นักเรียนรู้จักที่จะสื่อสารความคิดของตนเองออกไปอย่างมีประสิทธิภาพ หัดรับฟังเพื่อนในกลุ่ม และทำงานร่วมกันเพื่อไปให้ถึงเป้าหมายเดียวกัน
  4. กระตุ้นการพึ่งพาตนเอง : การเรียนการสอนแบบ Project Approach จะช่วยส่งเสริมให้นักเรียนได้สัมผัสกับความรู้สึกในการเป็นเจ้าของบทเรียนและมีความรับผิดชอบต่องานของตัวเอง
  5. เสริมสร้างทักษะทางสังคม : นักเรียนเรียนรู้ที่จะทำงานร่วมกัน เจรจาต่อรอง และประนีประนอมกับเพื่อนๆ ซึ่งเป็นทักษะที่มีประโยชน์ต่อชีวิตพวกเขาในทุกๆ ด้าน

โรงเรียนนานาชาติ D-PREP ประยุกต์ใช้ Project Approach ต่อกลยุทธ์การสอนและหลักสูตรของโรงเรียนอย่างไรบ้าง

ที่โรงเรียนนานาชาติบางนา D-PREP เราได้ประยุกต์ใช้การเรียนการสอนแบบ Project Approach ในหลายๆ วิธี หนึ่งในนั้นคือการให้ครูผู้สอนเลือกหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่งเพื่อให้นักเรียนได้ค้นหาข้อมูลเชิงลึก ตัวอย่างเช่น เมื่อนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เรียนเกี่ยวกับศาสนาต่างๆ ในโลกนี้และตั้งคำถามว่าศาสนาส่งผลต่อวัฒนธรรมของผู้คนอย่างไรบ้าง

การเรียนจะเริ่มต้นโดย นักเรียนได้เรียนในห้องเกี่ยวกับความแตกต่างของศาสนา ลำดับต่อไป นักเรียนลงพื้นที่ด้วยตัวเองเพื่อไปสำรวจศาสนาสถานต่างๆ เช่น โบสถ์ วัด ซึ่งทำให้พวกเขาได้มีประสบการณ์ด้วยตัวเองว่าเมื่อได้เข้าไปในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นเป็นอย่างไรบ้าง ประสบการณ์เหล่านั้นช่วยให้เด็กๆ ได้ทราบถึงความรู้สึกของผู้ที่นับถือศาสนาแต่ละศาสนาที่แตกต่างกัน หลังจากนั้น นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ได้มาบอกเล่าถึงประสบการณ์เหล่านั้นในทุกรายละเอียดที่พวกเขาเรียนรู้มาให้แก่ผู้ปกครองและแขกที่มาร่วมวันงานฉลองการเรียนรู้ของโรงเรียนได้ฟังกัน

อีกวิธีหนึ่งที่โรงเรียนนานาชาติ D-PREP นำการเรียนการสอนแบบ Project Approach มาประยุกต์ใช้ก็คือ การนำมาใช้กับวิชาที่นักเรียนต้องเรียนรู้โดยการตรวจสอบข้อสงสัยทางวิทยาศาสตร์ ตัวอย่างของวิธีนี้ก็คือ การไปทัศนศึกษาของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ล่าสุด ซึ่งพวกเขาได้เรียนรู้เกี่ยวกับชีวิตสัตว์ทะเลอย่างละเอียด โดยการสำรวจสิ่งมีชีวิตใต้น้ำ นักเรียนพบว่า อัตราการตายของแนวปะการังนั้นอยู่ในสถานการณ์ที่น่าเป็นห่วง

เพื่อทำความเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น นักเรียนจึงได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญในหลากหลายสาขาวิชาชีพ เช่น ดร.นันทริกา ชันซื่อ ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย Zackery Rago นักชีววิทยาทางทะเลจากฮาวาย ทำให้นักเรียนได้เรียนรู้ว่าวิธีหนึ่งที่พวกเขาจะช่วยฟื้นฟูชีวิตของปะการังได้ก็คือด้วยการสร้างแหล่งอนุบาลปะการัง

การเรียนการสอนแบบ Project Approach ซึ่งนำมาใช้เพื่อเรียนรู้ในเรื่องดังกล่าวสามารถสรุปอย่างเป็นทางการได้จากประสบการณ์ที่พวกเขาได้รับผ่านการไปทัศนศึกษาที่จังหวัดกระบี่ซึ่งเป็นสถานที่ที่พวกเขาได้สร้างแหล่งอนุบาลปะการังด้วยการสนับสนุนจาก Coralyfe ซึ่งเป็นองค์กรที่มีเป้าหมายในการฟื้นฟูสุขภาพของแนวปะการังท้องถิ่น การเรียนการสอนครั้งนี้ประสบความสำเร็จในทุกด้าน และแหล่งอนุบาลปะการังของเด็กๆ นั้นอยู่ที่เกาะยาวาซัม ซึ่งเป็นเกาะที่พวกเขาหวังว่าแนวปะการังจะเติบโตเป็นบ้านที่ปลอดภัยของสัตว์ทะเลในจังหวัดกระบี่ต่อไป

ตัวอย่างกิจกรรมของการเรียนการสอนแบบ Project Approach ที่โรงเรียนนานาชาติ D-PREP

การเรียนการสอนแบบ Project Approach ของโรงเรียนนานาชาติ D-PREP แตกต่างกันไปตามระดับชั้นเรียน หนึ่งในกิจกรรมที่โดดเด่นของการเรียนการสอนแบบ Project Approach ของโรงเรียนเราคือ เมื่อนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาตอนต้นได้เริ่มต้นเส้นทางการสำรวจเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับความยากจนและหาคำตอบว่าทำไมจึงเกิดความยากจนขึ้น เป้าหมายของกิจกรรมนี้คือ การส่งเสริมความรู้สึกเห็นอกเห็นใจและเข้าใจผู้ที่ประสบปัญหาความยากจน และการสร้างความเปลี่ยนแปลงที่ให้ผลเชิงบวกต่อชุมชน

ส่วนหนึ่งของกิจกรรม นักเรียนได้มีโอกาสไปสัมภาษณ์ผู้ก่อตั้งมูลนิธิช่วยเหลือชุมชนกรุงเทพ องค์การที่ไม่แสวงหากำไรซึ่งช่วยเหลือคนไร้บ้านด้วยการบริจาคเงินและแจกจ่ายอาหาร การสัมภาษณ์ดังกล่าวทำให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับปัญหาความยากจนจากผู้เชี่ยวชาญในสาขานั้นๆ และได้รับทราบถึงความเปลี่ยนแปลงของชุมชนที่เกิดจากความช่วยเหลือขององค์กร

นักเรียนได้รับแรงบันดาลใจจากการเรียนรู้และการทำงานของมูลนิธิช่วยเหลือชุมชนกรุงเทพ ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะช่วยเหลือผู้อื่นบ้างด้วยการบริจาคอาหารให้แก่ผู้ที่ขาดแคลน รวมทั้งผลักดันกิจกรรมให้พัฒนาไปสู่อีกขั้นด้วยการก่อตั้งองค์การไม่แสวงหากำไรของตนเองที่ชื่อว่า Fresh Hope Foundation ซึ่งมีเป้าหมายเพื่อช่วยคนไร้บ้านในการเริ่มต้นชีวิตใหม่

โครงการของเด็กนักเรียนนอกจากการก่อตั้ง Fresh Hope Foundation ยังรวมถึงการจัดทำนิตยสารที่ชื่อว่า War and Peace ซึ่งจะบอกเล่าเกี่ยวกับเรื่องราวความขัดแย้งต่างๆ ที่คนในแต่ละสาขาอาชีพเคยประสบพบเจอมา นิตยสารดังกล่าวไม่ใช่เพียงแต่จะสร้างการรับรู้เกี่ยวกับความยากจน ผลกระทบจากความยากจนที่มีต่อชีวิตของผู้คนเท่านั้น แต่ยังมีเป้าหมายที่จะสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้อ่านลงมือทำอะไรบางอย่างเพื่อสร้างความเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกต่อชุมชนของพวกเขาอีกด้วย

ตลอดระยะเวลาของกิจกรรมนี้ นักเรียนของโรงเรียนนานาชาติ D-PREP มีความเข้าใจที่ละเอียดลึกซึ้งเกี่ยวกับความยากจนมากขึ้น และได้ก่อให้เกิดการกระทำที่มีคุณค่าต่อการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกต่อชุมชน พวกเขาแสดงให้เห็นว่า แม้แต่คนอายุน้อยก็สามารถสร้างความแตกต่างและการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นได้ อีกทั้งได้ตระหนักว่า ความเห็นอกเห็นใจและความเข้าใจนับว่าเป็นปัจจัยที่สำคัญในการแก้ไขปัญหาสังคมที่ซับซ้อนอย่างเช่น เรื่องความยากจน

 

หลักสูตรของเราจะช่วยส่งเสริมการเรียนรู้และการเติบโตด้านบุคลิกภาพของลูกคุณได้อย่างไร?
นัดขอคำปรึกษาได้แล้ววันนี้
หมดกังวลเรื่องหลักสูตร! นัดรับคำปรึกษาฟรีกับผู้เชี่ยวชาญของเรา เพื่อคลายข้อสงสัยในทุกมิติ คุณจะได้ค้นพบว่า โปรแกรมของเราตอบโจทย์ความต้องการ และสไตล์การเรียนรู้ที่เฉพาะตัวของลูกคุณอย่างไร สำรองที่นั่งเพื่อทัวร์โรงเรียน หรือทดลองเรียน ฟรี!

Address :
D-PREP International School
38, 38/1-3, 39, Moo 6,
Bangna Trad Rd., Km. 8,
Bang Kaeo, Bang Phli District,
Samut Prakan, Thailand 10540

Email: admissions@dprep.ac.th
เบอร์ติดต่อ: 095-879-4944
Website : www.dprep.ac.th
Facebook: D-PREP International School
Line: @d-prep
IG : @dprepschool

Related Blog

5 วิธีช่วยพัฒนาให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ความเห็นอกเห็นใจเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญในการพัฒนาทางสังคมและอารมณ์ของเด็ก ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและความเป็นอยู่โดยรวม โดยทำให้พวกเขาฝึกความเข้าใจและแบ่งปันความรู้สึกของผู้อื่น

วิธีเลือก Career path ที่เหมาะสมให้กับลูก

พ่อแม่ทุกคนปรารถนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก และการชี้นำพวกเขาไปสู่เส้นทางอาชีพ หรือ career path ที่ถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของพวกเขา เส้นทางอาชีพเป็นตัวกำหนดชีวิตของเด็ก และในฐานะผู้ปกครอง คุณมีบทบาทสำคัญในการปรับชีวิตให้สอดคล้องกับความหลงใหลและความสามารถของพวกเขา
student center learning

ทำไมการเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์กลางจึงเป็นเรื่องสำคัญในศตวรรษที่ 21

การเรียนรู้ที่เน้นนักเรียนเป็นศูนย์ หรือ student-centered learning เป็นสิ่งสำคัญเพื่อเตรียมความพร้อมนักเรียนให้ประสบความสำเร็จ ในยุคที่มีการพัฒนาเทคโนโลยีและตลาดแรงงานมีการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง

Unlock Your Child's Potential: Explore Our Curriculum & Connect with Admissions!

Get one-on-one support & tailored advice: Chat directly with our admissions team who will answer your specific questions about the curriculum and guide you through the enrollment process smoothly.