เลือกภาษา

5/5

Open

House

เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
2 พฤษภาคม 2567

Open House
เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
2 พฤษภาคม 2567
กลยุทธ์ในการเลี้ยงดูเด็ก Gen Alpha อย่างมีประสิทธิภาพ

กลยุทธ์ในการเลี้ยงดูเด็ก Gen Alpha อย่างมีประสิทธิภาพ

Gen Alpha kids

ในโลกที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้เทคโนโลยีกลายเป็นปัจจัยสำคัญต่อการเจริญเติบโตของเด็กรุ่นใหม่อย่างมากเมื่อเทียบกับเด็กรุ่นก่อน ๆ 

เด็กยุคดิจิตอลเหล่านี้มีพฤติกรรมที่เปลี่ยนแปลงไปตามเทคโนโลยีที่เกิดมาพร้อมกับพวกเขา เราให้คำนิยามกับเด็กกลุ่มนี้ว่า “Gen Alpha” หรือ “เด็กเจนอัลฟ่า” ซึ่งการเลี้ยงดูเด็กเจนนี้อาจก่อเกิดเป็นความท้าทายใหม่ให้กับคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นโรงเรียนนานาชาติ D-prep จึงอยากมาแนะนำเคล็ดลับการเลี้ยงดูเด็กเจนอัลฟ่าอย่างไรให้มีประสิทธิภาพ

 

สารบัญ

“Generation Alpha” หรือ “เด็กเจนอัลฟ่า” คือใคร

Who-is-generation-alpha

เด็กเจนอัลฟ่าเกิดในช่วงระหว่างปี ค.ศ. 2010 ถึง 2025 คือเจเนอเรชั่นถัดจากเด็กยุคเจน และเป็นกลุ่มคนที่เติบโตในโลกที่มีอินเตอร์เน็ตอยู่รอบตัว เด็กเจนอัลฟ่ามักจะใช้เทคโนโลยีได้อย่างคล่องแคล่ว และใช้อุปกรณ์ต่างๆ อย่าง สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และแล็ปท็อป จนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต

โลกของอินเตอร์เน็ตทำให้เด็กเจนอัลฟ่า เป็นกลุ่มคนในยุคที่มีความหลากหลายมากที่สุด มีโอกาสได้สัมผัสกับมุมมองและวัฒนธรรมที่แตกต่างตั้งแต่อายุยังน้อย พวกเขาเติบโตขึ้นมาในยุคที่ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมนั้นเป็นปัญหาที่ไม่อาจมองข้ามได้ และรับรู้ถึงเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสังคมยุคปัจจุบัน

เด็กเจนอัลฟ่าแตกต่างจากเด็กยุคอื่น ๆ อย่างไร

หากจะเทียบกับกลุ่มคนยุคก่อนหน้า เด็กเจนอัลฟ่าจะมีความรู้ด้านเทคโนโลยี และก้าวทันโลกมากกว่า พวกเขาต่างเติบโตมาพร้อมกับสื่อสังคมออนไลน์ และโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น TikTok แพลทฟอร์มชื่อดังของโลก หรือเกมออนไลน์อย่าง Roblox ซึ่งเป็นเกมที่เด็ก ๆ สามารถเล่นร่วมกับเพื่อน ๆ ได้ และยังมีความสามารถถึงขนาดสร้างเกมส์ขึ้นมาเล่นเองได้อีกด้วย

อีกสิ่งที่ทำให้เด็กยุคเจน Z กับเด็กยุคเจนอัลฟ่าแตกต่างกันมากก็คือ รอยเชื่อมต่อของเทคโนโลยี ที่ถึงแม้ว่าเด็กยุคเจน Z จะเติบโตมาพร้อมกับเทคโนโลยีเช่นเดียวกันก็ตาม แต่พวกเขายังคงมีช่วงเวลาก่อนการเข้ามาของสมาร์ทโฟน และก่อนที่สื่อสังคมออนไลน์จะเป็นที่แพร่หลาย

แต่ในทางกลับกัน เด็กเจนอัลฟ่านั้นไม่เคยได้รู้ว่า โลกในยุคที่ไม่มีเทคโนโลยีนั้นเป็นอย่างไร ดังนั้นเด็กกลุ่มนี้จึงถูกนิยามว่าเป็น “เด็กยุคดิจิตอล” ผู้ที่ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีและอินเตอร์เน็ตเป็นอย่างมาก

เด็กเจนอัลฟ่าและเทคโนโลยี

เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญทั้งในด้านการศึกษาและการเรียนรู้ของเด็กเจนอัลฟ่า ดังนี้

  • การเข้าถึงข้อมูลและแหล่งข้อมูล – เทคโนโลยีช่วยให้เด็กเจนอัลฟ่าสามารถเข้าถึงข้อมูล แหล่งข้อมูล และสื่อการเรียนการสอนต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังทำให้เด็ก ๆ สามารถเรียนรู้และค้นหาสิ่งที่ตัวเองสนใจต่าง ๆ ได้ตามต้องการ
  • การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม – เทคโนโลยีช่วยเพิ่มประสบการณ์เรียนรู้แบบมีส่วนร่วมให้กับเด็ก ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรมทัศนศึกษาเสมือนจริง (Virtual field trip) การจำลองสถานการณ์ และตอบปัญหาแบบออนไลน์ โดยสิ่งเหล่านี้ช่วยให้เด็กเจนอัลฟ่าอยากมีส่วนร่วมและเพิ่มแรงบันดาลใจที่จะเรียนรู้
  • การเรียนรู้ร่วมกัน – เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกให้เกิดการเรียนรู้ร่วมกัน ทำให้เด็กเจนอัลฟ่าสามารถทำงาน และแบ่งปันแนวคิด แหล่งข้อมูลต่าง ๆ และตอบรับร่วมกับผู้อื่นได้ แม้ไม่ได้อยู่ด้วยกัน โดยสิ่งนี้ช่วยเสริมสร้างทักษะการทำงานเป็นทีม และการแก้ไขปัญหาให้กับผู้เรียนได้
  • การพัฒนาทักษะส่วนบุคคล – เราสามารถนำเอาเทคโนโลยีไปใช้เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ในการเรียนรู้ของเด็กเจนอัลฟ่า โดยการปรับปรุงเนื้อหา และระดับความยาก เพื่อทำให้เหมาะสมกับความต้องการและความสามารถของเด็กแต่ละคน นอกจากนั้นยังช่วยให้เด็ก ๆ ได้พัฒนาทักษะสำคัญต่าง ๆ เช่น การเขียนโปรแกรม (Coding) การออกแบบสื่อดิจิตอล (Digital Design) และการวิเคราะห์ข้อมูล โดยทักษะดังกล่าวค่อย ๆ มีความสำคัญสำหรับตลาดแรงงานในศตวรรษที่ 21
  • การเรียนรู้ทางไกล – จากวิกฤติการณ์การแพร่ของโรคระบาด เทคโนโลยีจึงเข้ามามีบทบาทสำคัญในการเรียนรู้แบบทางไกล ซึ่งช่วยให้ระบบการศึกษามีความยืดหยุ่นมากขึ้น อีกทั้งยังสามารถปรับเข้ากับสถานการณ์ต่าง ๆ ที่กำลังเปลี่ยนแปลงได้อย่างดี

ความท้าทายที่พ่อแม่จะได้พบในการเลี้ยงดูเด็กเจนอัลฟ่า

การเป็นพ่อแม่นั้นไม่ใช่เรื่องที่ง่ายเลย โดยเฉพาะเมื่อต้องให้คำแนะนำกับเด็กที่เติบโตในยุคที่โลกหมุนไปอย่างรวดเร็วด้วยเทคโนโลยี จนอาจทำให้คุณพ่อคุณแม่สับสนจนเกิดความไม่เข้าใจในตัวเด็ก 

ความท้าทายหนึ่งของพ่อแม่เด็กเจนอัลฟ่าก็คือการจัดการกับการใช้เทคโนโลยี ด้วยความที่เทคโนโลยีมีส่วนสำคัญในชีวิตของเด็กเจนอัลฟ่าเป็นอย่างมาก ผู้ปกครองอาจต้องการความช่วยเหลือในการกำหนดขอบเขต และแนวทางที่เหมาะสมสำหรับการใช้งาน รวมไปถึงเฝ้าสังเกตเนื้อหาที่เด็กควรจะได้รับจากสื่อออนไลน์

อีกหนึ่งความท้าทายสำคัญที่พ่อแม่จะได้พบก็คือ การรักษาความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของลูก ด้วยความที่เด็กในยุคอัลฟ่านั้นมักจะใช้อินเตอร์เน็ตอยู่เสมอ คุณพ่อคุณแม่จึงต้องตระหนักถึงความเสี่ยงที่ลูกจะเผยแพร่ข้อมูลส่วนตัวของตนเอง และควรที่ปกป้องคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัยของเด็กด้วยเช่นกัน 

นอกจากนี้การจูงใจให้เด็กได้มีส่วนร่วมหรือกิจกรรมกับโลกภายนอกนอกเหนือจากโลกออนไลน์อย่างสม่ำเสมอ เพื่อพัฒนาทักษาทางสังคม ก็ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายของผู้ปกครองเช่นกัน

ท้ายที่สุดแล้ว พ่อแม่อาจจำเป็นต้องให้ความสนใจไปที่สุขภาพทางจิตของลูก ด้วยการที่เด็กเจนอัลฟ่านั้นเติบโตในช่วงเวลาที่โลกเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว สามารถเข้าถึงข้อมูลทั่วโลกได้มากขึ้น คุณพ่อคุณแม่อาจพบว่าเป็นการยากที่จะคอยประคับประคองสภาวะทางจิตใจและอารมณ์ของลูกอย่างเป็นประจำ

4 กลยุทธ์ในการเลี้ยงดูเด็กเจนอัลฟ่าอย่างมีประสิทธิภาพ

Raising-generation-alpha

ไม่มีแนวทางใดที่สมบูรณ์แบบในการเลี้ยงดูเด็ก แต่ยังมีบางกลยุทธ์ที่สามารถนำมาใช้เพื่อเลี้ยงดูเด็กยุคอัลฟ่าได้อย่างมีประสิทธิภาพดังต่อไปนี้

1. สนับสนุนการพูดคุยอย่างเปิดเผย

สนับสนุนให้ลูกได้แสดงความคิดเห็น และความรู้สึกของตนเองอย่างเปิดเผย พร้อมทั้งตั้งใจฟังในสิ่งที่พวกเขาแสดงออกมา วิธีนี้จะช่วยให้ลูก ๆ รู้สึกว่าพ่อแม่คอยฟังและเข้าใจตนเอง จนเกิดเป็นความไว้เนื้อเชื่อใจและเคารพซึ่งกันและกัน 

อาจเริ่มจากสิ่งเล็กน้อย อย่างการถามความรู้สึกของลูก แล้วตั้งใจฟังอย่างใจเย็น เพียงแค่นี้ก็สามารถช่วยให้สภาพจิตใจของลูกดีขึ้นได้อย่างมาก เมื่อเราเป็นพ่อแม่ เราก็ควรทำให้ลูกได้รู้สึกว่า การแสดงความรู้สึกนั้นเป็นเรื่องปกติ และจะไม่โดนทำโทษ ถ้าหากลูกแสดงความรู้สึกกับเราอย่างตรงไปตรงมา

2. สนับสนุนให้ยืนหยัด และพึ่งพาตนเองได้

ควรแนะนำให้ลูกได้รู้จักทักษะที่จำเป็นต่อการยืนหยัดและพึ่งพาตนเองได้ สนับสนุนให้พวกเขารู้จักความรับผิดชอบและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง อีกวิธีการหนึ่งที่จะส่งเสริมให้ลูกได้ยืนหยัดด้วยตนเองคือ ให้อิสระกับลูกในการค้นคว้าและตัดสินใจได้ด้วยตนเอง ภายใต้สภาพแวดล้อมที่เราตีกรอบเอาไว้ วิธีการนี้จะช่วยให้ลูกมีความรับผิดชอบต่อสิ่งที่ตัวเองทำมากขึ้น

3. ให้ความสำคัญกับการศึกษาด้านเทคโนโลยี

เทคโนโลยีมีความสำคัญมากกับชีวิตเด็กเจนอัลฟ่า จึงจำเป็นต้องให้ความรู้ในด้านการใช้เทคโนโลยีและสื่ออย่างปลอดภัยและเหมาะสม ควรสั่งสอนให้ลูกระวังและอย่าหลงเชื่อส่งต่อข่าวปลอม สอนลูกให้หัดสังเกตและหลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดในโลกออนไลน์ รวมถึงการอธิบายและยกตัวอย่างให้ลูกได้เห็นชัดเจนว่า เหตุใดข้อมูลในบางเว็บไซต์จึงเป็นอันตราย

4. หาโอกาสให้ลูกได้รับรู้ถึงวัฒนธรรม และประสบการณ์ในการเข้าสังคม

สนับสนุนให้ลูกได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม ทัศนคติ และประเด็นทางสังคมที่แตกต่างกันออกไป วิธีนี้จะช่วยให้พวกเขาเกิดความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจผู้อื่นมากขึ้น เราสามารถเป็นต้นแบบให้ลูกได้ ด้วยการเป็นตัวอย่างที่ดีในการแสดงความเมตตาและเห็นใจผู้อื่น ท้ายที่สุดแล้ว เด็ก ๆ จะเรียนรู้จากตัวอย่างที่ตนเองเห็น

โรงเรียนนานาชาติ D-PREP ส่งเสริมการเติบโตของเด็กเจนอัลฟ่าอย่างไร

ด้วยหลักสูตรเฉพาะของโรงเรียนนานาชาติ D-PREP ที่จัดทำขึ้นสำหรับนักเรียนเจน Z และเจนอัลฟ่าโดยเฉพาะ เรามีหลักสูตรการเรียนรู้แบบลงมือทำ (Experiential learning) ที่จะช่วยให้นักเรียนได้เรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรม และทัศนคติที่แตกต่างกันของแต่ละบุคคล 

ซึ่งหลักสูตร Experiential learning นี้ นักเรียนจะได้ออกไปเรียนรู้นอกห้องเรียน และได้เพิ่มพูนประสบการณ์ต่าง ๆ จากการลงมือทำจริง การเรียนรู้แบบนี้จะทำให้นักเรียนได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้งห้าอย่างเต็มที่ เพื่อให้พัฒนาทักษะของตนเองให้แตกต่างและโดดเด่น ซึ่งการรู้เรียนยังเป็นที่น่าจดจำ และจะทำให้เด็ก ๆ เรียนรู้ได้ดียิ่งขึ้น     

สำหรับนักเรียนระดับเตรียมอนุบาล ทางโรงเรียนนานาชาติ D-PREP ได้จัดแนวการเรียนการสอนแบบ เรกจิโอ เอมิเลีย เพื่อที่เด็ก ๆ จะได้ค้นคว้าสิ่งต่าง ๆ ได้อย่างอิสระ และก่อให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ ระหว่างปีการศึกษา การเรียนรู้ของเด็ก ๆ จะไม่ถูกจำกัด พวกเขาจะเรียนรู้ตามความสามารถของตนเอง และแน่นอนว่าต้องสนุก นอกจากนั้นยังได้รับการรับรองคุณภาพการเรียนการสอนให้เป็นไปตามหลักสูตร IB PYP ที่ได้มาตรฐานระดับโลกอีกด้วย

ท้ายที่สุดแล้วทางโรงเรียนนานาชาติ D-PREP ได้ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีได้อย่างเต็มที่ เราใช้เทคโนโลยีเพื่อปรับปรุงทักษะด้านการมีส่วนร่วม และสอนให้นักเรียนได้ใช้งานอย่างปลอดภัยและมั่นคง อีกทั้งทางโรงเรียนนานาชาติ D-PREP ยังได้สอนเกี่ยวกับวิทยาการหุ่นยนต์ ที่จะสอนให้นักเรียนได้รู้จักทักษะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การเขียนปรแกรม (Coding) และส่งเสริมให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ และรู้จักคิดนอกกรอบ

หากท่านสนใจเข้าเยี่ยมชมโรงเรียนสามารถติดต่อได้ที่

Address :
D-PREP International School
38, 38/1-3, 39, Moo 6,
Bangna Trad Rd., Km. 8,
Bang Kaeo, Bang Phli District,
Samut Prakan, Thailand 10540

Email: info@didyasarin
Google Map: https://info.dprep.ac.th/directions
เบอร์ติดต่อ: 02-105-1757, 082-1515922
Website : www.dprep.ac.th
Facebook: DprepSchool
Line: @d-prep
IG : @dprepschool

Related Blog

5 วิธีช่วยพัฒนาให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ความเห็นอกเห็นใจเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญในการพัฒนาทางสังคมและอารมณ์ของเด็ก ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและความเป็นอยู่โดยรวม โดยทำให้พวกเขาฝึกความเข้าใจและแบ่งปันความรู้สึกของผู้อื่น

วิธีเลือก Career path ที่เหมาะสมให้กับลูก

พ่อแม่ทุกคนปรารถนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก และการชี้นำพวกเขาไปสู่เส้นทางอาชีพ หรือ career path ที่ถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของพวกเขา เส้นทางอาชีพเป็นตัวกำหนดชีวิตของเด็ก และในฐานะผู้ปกครอง คุณมีบทบาทสำคัญในการปรับชีวิตให้สอดคล้องกับความหลงใหลและความสามารถของพวกเขา
resilience in student

โรงเรียนนานาชาติ D-PREP ปลูกฝัง Resilience skill ให้นักเรียนได้อย่างไร?

นักเรียนที่มีทักษะ Resilience หรือความยืดหยุ่นจะสามารถปรับตัว ฟื้นตัว และกล้าที่จะเผชิญกับความท้าทายใหม่ๆ ซึ่งโรงเรียนมีส่วนสำคัญอย่างมากเพื่อเตรียมตัวเสริมสร้างทักษะเหล่านี้และเตรียมความพร้อมให้พวกเขาเติบโตเป็นผู้ใหญ่

Unlock Your Child's Potential: Explore Our Curriculum & Connect with Admissions!

Get one-on-one support & tailored advice: Chat directly with our admissions team who will answer your specific questions about the curriculum and guide you through the enrollment process smoothly.