เลือกภาษา

5/5

Open

House

เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว
24 เมษายน 2567

Open House
เปิดให้ลงทะเบียนแล้ว 20 มีนาคม 2567
ทักษะชีวิต หรือทักษะการใช้ชีวิต สำคัญและจำเป็นสำหรับลูกของเรา

ทักษะชีวิต หรือทักษะการใช้ชีวิต สำคัญและจำเป็นสำหรับลูกของเรา

หัวใจสำคัญของการเรียนรู้ใน DPREP อย่าง“ทักษะชีวิต” หรือ “ทักษะการใช้ชีวิต” คือสิ่งที่นักเรียนจะได้เรียนรู้และสร้างได้ด้วยตนเอง ทั้งการเรียนรู้ที่จะเห็นอกเห็นใจผู้อื่น มีความยืดหยุ่นในชีวิต และปรับตัวเข้ากับโลกที่เปลี่ยนแปลง เพื่อสามารถเผชิญปัญหาต่างๆ ที่อยู่รอบตัว และเตรียมพร้อมสำหรับอนาคตได้อย่างมีประสิทธิภาพ

สำหรับเด็กเล็ก เช่น นักเรียนเกรด 1 จะได้เรียนเกี่ยวกับการทำงานของสมอง และการจัดการอารมณ์ผ่านการฝึกสมาธิ ทำให้เด็กได้พัฒนาทักษะด้านต่างๆ เช่น ความเข้าใจในตนเองและสังคม ทักษะด้านการบริหารจัดการ ซึ่งเป็นหนึ่งในทักษะสำคัญของการใช้ชีวิต 

การเรียนรู้ผ่านโมเดลทักษะการใช้ชีวิตนี้จะช่วยให้เด็กพัฒนาทั้งทางด้านวิชาการ และพัฒนาตัวเองในด้านอื่นๆ ด้วย

ทักษะชีวิต มีกี่องค์ประกอบ อะไรบ้าง

  1. Self Understanding (การเข้าใจตนเอง)
  2. Social Understanding (การเข้าใจสังคม)
  3. Livelihood (การดำรงชีวิต)
  4. Active Citizenship (การเป็นพลเมืองที่พร้อมทำหน้าที่)

นอกจากองค์ประกอบหลักของทักษะชีวิตหรือ Life Skills มีทั้ง 4 ข้อ ซึ่งที่ DPREP ยังให้ความสำคัญกับเสาทั้ง 3 ด้าน ซึ่งคอยเชื่อมโยงและส่งเสริมองค์ประกอบทั้ง 4 ให้ขับเคลื่อนไปด้วยกัน

เสาทั้ง 3 ด้าน ประกอบด้วย

เสาที่ 1 : Life Truths (สัจธรรมของชีวิต)
เสาที่ 2 : Dream-Discover-Deliver (ความฝัน-การค้นพบ-การทำฝันให้สำเร็จ)
เสาที่ 3 : D-PREP CO-CREATORS Values เป็นสิ่งที่มุ่งหวังที่จะถูกปลูกฝังให้กับสมาชิกทุกคนใน D-PREP ตั้งแต่นักเรียน ผู้ปกครอง และพนักงานของเราทุกคน เพื่อทำให้เป้าหมายที่สร้างร่วมกันเกิดขึ้นจริง

life skills framework

Self Understanding (การเข้าใจตนเอง)

การเข้าใจตนเอง หมายถึง “การรับรู้ตนเอง” ซึ่งเป็นใจกลางของกรอบทักษะชีวิต ประกอบไปด้วย การเสริมสร้างการรักตัวเอง การเห็นคุณค่า และการเคารพในตัวเอง 

การส่งเสริมทักษะด้านนี้ในเด็กเล็กนั้น D-PREP จะเริ่มจากการฝึกสมาธิ และฝึกทักษะการกำหนดลมหายใจ เพราะเราเชื่อว่าการมีสติและสมาธิที่ดีนั้น ช่วยส่งผลให้เด็กมีทักษะที่ดีทางด้านอารมณ์และสังคม

ทักษะชีวิต การเข้าใจตัวเอง

ในเด็กอายุตั้งแต่ 2 ขวบเราใช้วิธีการที่เรียกว่า “mood meter” (การวัดระดับของอารมณ์ความรู้สึก) มาช่วยเสริมสร้างทักษะการรับรู้ตนเอง โดยคุณครูจะสร้างกิจกรรมที่เปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้พูดคุยกันถึงอารมณ์และความรู้สึกในขณะนั้น เช่น ตอนนี้รู้สึกอย่างไร ? วันนี้อารมณ์ดีมั้ย ? เป็นต้น ควบคู่ไปกับการเรียนรู้กลไกการทำงานของสมอง ส่งเสริมให้เด็กได้สังเกต เรียนรู้ และพูดคุยกันถึงการทำงานของสมอง ว่ามีผลต่อการควบคุมการแสดงอารมณ์อย่างไร

นอกจากนี้ เด็ก ๆ ยังได้เรียนรู้ทักษะหลากด้านจากการนั่งสมาธิ เช่น การรู้เท่าทันความคิดและอารมณ์ของตัวเอง การสงบสติอารมณ์ และการจดจ่อมีสมาธิกับสิ่งที่ต้องทำในขณะนั้น ซึ่งเป็นทักษะสำคัญของการประสบความสำเร็จทั้งด้านการเรียนและการใช้ชีวิต

Social Understanding (การเข้าใจสังคม)

นอกจากการเข้าใจตนเองแล้ว การเรียนรู้ที่จะเข้าใจสังคมถือว่ามีความสำคัญไม่แพ้กัน โดยเราปลูกฝังและอบรมทักษะการเข้าใจสังคมให้กับเด็กผ่านแนวคิดต่างๆ  เช่น ความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ความกล้าหาญ ความซื่อสัตย์ และความอดทน

ทักษะการใช้ชีวิต การเข้าใจสังคม

ตัวอย่างเช่น “Blind Project” โดยเด็ก ๆ จะถูกปิดตาและเดินไปรอบๆ โรงเรียน เพื่อความเข้าใจถึงความยากลำบากของคนตาบอด โครงการนี้ช่วยเสริมสร้างการเข้าใจความรู้สึกของผู้อื่น และการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น เป็นต้น

นอกจากนี้ เรายังมีการจัดกลุ่มเพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นในหัวข้อที่เป็นกระแส และถูกพูดถึงในสังคม เป็นข่าวใหญ่ในประเทศไทยในปี 2019 เพื่อให้นักเรียนได้ไตร่ตรองถึงสาเหตุที่บางคนไม่สามารถระงับอารมณ์ตัวเองได้ เป็นสาเหตุทำให้ผู้อื่นบาดเจ็บและเสียชีวิต การเข้าใจสังคมในเชิงลึก จะทำให้เด็กเข้าใจปัญหาสังคมที่กระทบต่อคนส่วนใหญ่ ช่วยให้เด็กได้แสดงความคิดเห็น เพื่อเกิดการป้องกันไม่ให้เกิดปัญหาเหล่านี้ได้อีก

Livelihood (การดำรงชีวิต)

โดยสอนให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้สัจธรรมของชีวิต นั่นคือ

  1. การเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องธรรมดา (Change is normal)
  2. ความคิดของเรา ส่งผลต่อสิ่งที่เราเป็น (Our thoughts create our reality)
  3. รักตัวเองให้เป็น ทำให้เรารักคนอื่นเป็น (Loving ourselves is the foundation to loving anyone else)

เราเชื่อว่าหากเด็ก ๆ ได้รับการอบรมสั่งสอนให้เข้าใจสัจธรรมของชีวิตเหล่านี้ได้ ตั้งแต่พวกเขายังเรียนอยู่ จะช่วยส่งเสริมให้เด็กประสบความสำเร็จในการใช้ชีวิต ทั้งในและนอกโรงเรียนได้อย่างไม่ยากนัก 

โดยทักษะการดำรงชีวิตจะช่วยส่งเสริมความมั่นคงทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์​ นั่นรวมไปถึงสุขภาพการเงินที่ดีในอนาคตด้วยเช่นกัน 

การทำความเข้าใจโครงสร้างทางสังคมและธุรกิจ ตลอดจนการพัฒนาทักษะทางด้านต่างๆ เช่น การทำงานร่วมกับผู้อื่น การนำเสนอผลงาน และการแก้ปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เป็นองค์ประกอบที่สำคัญในการใช้ชีวิต 

ส่งเสริมให้เกิดความเชื่อมโยงพร้อมทั้งเปลี่ยนแปลงความชื่นชอบในสิ่ง ๆ หนึ่ง ระหว่างการเรียนรู้ ไปเป็นการใช้ชีวิตที่น่าสนุก ตื่นเต้น และประสบความสำเร็จ ช่วยให้นักเรียนของเราสามารถพึ่งพาตนเองได้อย่างแท้จริง ทั้งในชีวิตส่วนตัวและชีวิตการทำงาน

Active Citizenship (การเป็นพลเมืองที่พร้อมทำหน้าที่)

การเป็นพลเมืองที่กระตือรือร้น และพร้อมปฏิบัติหน้าที่ของตนเองอย่างมีประสิทธิภาพ  โดยจะส่งผลต่อความคิด พฤติกรรม และการกระทำ ซึ่งเป็นรากฐานของคุณค่าในชีวิตที่สำคัญ 

ทาง D-PREP ของเราจึงได้เน้นย้ำถึงคุณค่าสิ่งเหล่านี้ ได้แก่

  1. ความกล้าหาญ
  2. การเปิดใจรับสิ่งต่าง ๆ
  3. ความเห็นอกเห็นใจ
  4. ความยืดหยุ่น
  5. การปรับตัว
  6. การรู้สึกขอบคุณ
  7. ความเคารพ
  8. การรับรู้ตนเอง

เมื่อเด็ก ๆ ถูกเติมเต็มด้วยความรัก และมีความเข้มแข็งพร้อมเผชิญโลกกว้างแล้ว พวกเขาจะอยากปฏิบัติหน้าที่ของตนเองด้วยการเป็นพลเมืองที่ดี ช่วยสรรค์สร้าง และเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆ ให้ดีขึ้น ทั้งแก่ตนเอง ครอบครัว และสังคม

เป้าหมายสูงสุดของการเรียนรู้และเสริมสร้าง Life skills “ทักษะการใช้ชีวิต” ของเด็กนักเรียน คือ ช่วยให้เขาได้รู้ถึงศักยภาพและพลังในตัวเอง และค้นพบว่าพวกเขาสามารถสร้างชีวิตที่ดี ในแบบที่อยากได้ด้วยตนเอง และสามารถประสบความสำเร็จในชีวิตได้เป็นอย่างดี

Related Blog

5 วิธีช่วยพัฒนาให้เด็กมีความเห็นอกเห็นใจผู้อื่น

ความเห็นอกเห็นใจเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญในการพัฒนาทางสังคมและอารมณ์ของเด็ก ส่งเสริมความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นและความเป็นอยู่โดยรวม โดยทำให้พวกเขาฝึกความเข้าใจและแบ่งปันความรู้สึกของผู้อื่น

วิธีเลือก Career path ที่เหมาะสมให้กับลูก

พ่อแม่ทุกคนปรารถนาสิ่งที่ดีที่สุดสำหรับลูก และการชี้นำพวกเขาไปสู่เส้นทางอาชีพ หรือ career path ที่ถูกต้องถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับอนาคตของพวกเขา เส้นทางอาชีพเป็นตัวกำหนดชีวิตของเด็ก และในฐานะผู้ปกครอง คุณมีบทบาทสำคัญในการปรับชีวิตให้สอดคล้องกับความหลงใหลและความสามารถของพวกเขา
lifelong learners children

แนะนำ 8 เคล็ดลับในการเลี้ยงลูกให้เป็น “Lifelong Learners”

เป็นเรื่องปกติที่คุณพ่อคุณแม่จะต้องการให้ลูกเติบโตด้วยความกระตือรือร้น ต้องการที่จะเรียนรู้อย่างแท้จริง และการเลี้ยงลูกเพื่อให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิตจะทำให้เขาพัฒนาตนเองได้ต่อเนื่องตลอดชีวิต

Unlock Your Child's Potential: Explore Our Curriculum & Connect with Admissions!

Get one-on-one support & tailored advice: Chat directly with our admissions team who will answer your specific questions about the curriculum and guide you through the enrollment process smoothly.